top of page

วิธีการจัดการกับ "อาการเครียดการเมือง"

  • Writer: Admin
    Admin
  • Jun 5, 2020
  • 1 min read

หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ความวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไวรัสโควิด-19 หรือจะเป็นสถานการณ์การเมืองอันเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ทั้งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศและในประเทศ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราเองก็รู้สึกเครียดไปกับข่าวการเมืองในประเทศไทยเช่นกัน


การรับฟังข่าวสารและติดตามสถานการณ์ในสังคมนั้นไม่ใช่เรื่องผิด และในฐานะที่เราทุกคนนั้นเป็นมนุษย์ และส่วนหนึ่งของสังคม การที่เราเกิดอารมณ์ร่วมกับข่าวสารที่ได้รับจึงไม่ใช่เรื่องผิดอย่างแน่นอน แต่สิ่งไม่พึงประสงค์ที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังเผชิญอยู่นั้นก็คือ"อาการเครียดการเมือง" หรือความเครียดสะสมที่ส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและจิตนั่นเอง ดังนั้นในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแบ่งปันวิธีการจัดการกับ"อาการเครียดการเมือง" ให้ทุกคนฟังกัน

 

คำเตือน: บทความนี้ไม่ได้เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช ไม่แนะนำให้ใช้เป็นแนวทางในการรักษาโรคทางจิตเวช หรือโรคใด ๆ ทั้งสิ้น หากท่านมีความกังวลในเรื่องของโรคทางจิตเวช และทางการแพทย์อื่น ๆ เราแนะนำให้ท่านปรึกษาจิตแพทย์ และ/หรือแพทย์ในบริเวณใกล้เคียง


(1) สังเกตุตัวเองเพื่อหาสาเหตุของความเครียด


ก่อนจะแก้ปัญหาได้ ก็ต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุของปัญหาคืออะไร ในบริบทนี้เราหมายถึงว่า อยากให้คุณลองสังเกตุตัวเองดูก่อนว่า ในแต่ละวันเราใช้เวลาในการรับข่าวสารบ้านเมืองนานแค่ไหน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการติดตามรับฟังข่าวสารไม่ใช่เรื่องผิด แต่ทุกสิ่งก็ต้องมีความพอดี เราควรสังเกตุตัวเองทุกวันว่า การรับข่าวสารของเรานั้นกำลังกระทบกับเวลาที่เรามีให้สุขภาพกายและจิตหรือเปล่า เพราะถ้ากายและใจกำลังย่ำแย่ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาความเครียดแย่ลงไปได้อีก ทั้งในระยะสั้นและยาว


สำหรับสุขภาพกายนั้นหมายถึงเราต้องจัดเวลาในการกินอาหารให้ครบมื้อ ครบห้าหมู่ การดื่มน้ำให้เพียงพอ การออกกำลังกาย รวมไปถึงเวลาในการพักสายตาและการนอนหลับให้เพียงพอก็จำเป็นด้วยเช่นกัน ส่วนสุขภาพจิตนั้นหมายถึงเวลาที่เราได้มีให้แก่ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานอดิเรกหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ทั้งที่ทำคนเดียวและกับผู้อื่น


เราเข้าใจดีว่าปัญหาในสังคมไทยมากมายเป็นปัญหาที่เร่งด่วน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินหรือเวลาเพียงพอต่อการดูแลรักษาสุขภาพกายและใจของตนเองให้แข็งแรง ดังนั้นสำหรับใครที่มีแรงสู้ ก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเพื่อที่จะได้มีแรงสู้ต่อไปเพื่อคนที่ไม่มีแรงด้วยเช่นกัน


(2) นึกถึงสิ่งที่เราทำได้ตอนนี้


หลายคนอาจเกิดความเครียดทางการเมืองจากความรู้สึกที่ว่าตัวเองไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ จากที่เห็นในโซเชียลมีเดียที่บางคนรู้สึกเหนื่อยกับการผลักดันสังคม อทิ การพยายามลงชื่อใน change.org การปั่นแฮชแท็กทวิตเตอร์ หรือการแชร์ข้อมูล เพราะรู้สึกเหมือนว่าไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกนี้ ดังนั้นเราจึงอยากบอกคุณว่า แม้ว่าการพยายามในอดีตจะยังไม่เป็นผล เราก็สนับสนุนให้คุณมีความหวังและทำต่อไป


อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกเครียดมากเกินไปที่จะทำการผลักดันสังคมในลักษณะที่กล่าวไป การหยุดพักจากสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เลย เราอยากให้คุณลองหันมามองตัวเองและนึกถึงสิ่งดี ๆ ที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้ เพราะไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ก็อยากให้คุณรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น การที่คุณเข้าคิวซื้อของเสมอ การที่คุณทิ้งขยะลงถัง การที่คุณสอนเด็ก ๆ ให้เข้าใจประชาธิปไตย การเคารพกฎจารจร หรือแม้แต่การที่คุณไม่สนับสนุน และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทุจริต คอร์รัปชั่นก็ถือว่าคุณกำลังช่วยสังคมอยู่


(3) หาความรู้เพิ่มเติม


สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อกับความเครียด การหาความรู้เพิ่มเติมก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีเหมือนกัน การค้นคว้าเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ การเมือง กฎหมาย หรือการอ่านกรณีศึกษาจากต่างประเทศ นอกจากจะทำให้คุณได้ความรู้เพิ่มเติมแล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่ที่ว่าคุณอาจจะได้ทำความเข้าใจกลุ่มคนที่เห็นต่างจากคุณ ได้มองเห็นถึงปัจจัยและต้นตอของปัญหา หรือแม้แต่ได้เรียนรู้วิธีบรรเทาหรือแก้ปัญหา


เราแนะนำให้คุณศึกษาจากแหล่งข่าวหลาย ๆ สำนัก หนังสือหลาย ๆ เล่ม นักเขียนหลาย ๆ คน หรือเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บ เพราะมันเป็นความจริงที่ว่าปัจจุบันการบิดเบือนข้อมูลนั้นมีอยู่มากมายหลายรูปแบบ คนที่จะตัดสินว่าจะเชื่อหรือไม่นั้นก็มีเพียงแค่คุณเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะปักใจเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง


(4) แสดงออกอย่างสร้างสรรค์


โซเชียลมีเดียไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายไปเสียทั้งหมด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการสร้างโพสต์ หรือเขียนความคิดเห็นในเฟสบุ๊กจะเป็นวิธีเดียวในการแสดงออกทางด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโพสต์สั้น ๆ ก็ดี ยาว ๆ ก็ดี หรือแม้แต่การแสดงออกทางศิลปะ ทั้งแต่งกลอน วาดภาพ ร้องเพลง ใด ๆ ล้วนเป็นกิจกรรมที่ใช้ในการแสดงออกทางการเมืองได้ทั้งสิ้น การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเครียด และความอึดอัดในใจได้ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ดีเพราะไม่สร้างความรุนแรง หรือที่เรียกว่าเป็นสันติวิธีนั่นเอง


(5) ไม่ใช้ความรุนแรง


อารมณ์ใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดการกับอารมณ์ ไม่ว่าจะโกรธหรือไม่พอใจแค่ไหน ก็อยากให้ระลึกไว้เสมอว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออก การระบายความโมโหทำได้หลายวิธี แต่ไม่ควรทำอะไรก็ตามที่เป็นอันตรายแก่ตนเองหรือต่อผู้อื่น ส่วนทางคำพูดนั้น หากอยากจะด่าทอใครอย่างหยาบคาย เราแนะนำให้คุณพิมพ์มันออกมาในเอกสารเปล่า ๆ หรือเขียนใส่สมุดส่วนตัว พอได้ระบายจนเริ่มหัวเย็นแล้วก็จงลบทิ้งเสีย เพราะคำหยาบคายและการด่าทอจะไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง กลับกันแล้ว ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น หรือให้ความรู้กับผู้อื่น ควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ในการคุย การด่าทอกันจะทำเกิดการเบี่ยงประเด็น และทำให้เราไม่สามารถสื่อสารสิ่งที่ต้องการออกไปได้อย่างสมบูรณ์

 

ท้ายที่สุดนี้เราอยากบอกว่า การเมืองเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โรคเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี้ยงได้ด้วยการจัดการอารมณ์ที่ถูกต้อง หากคุณคิดว่าไม่สามารถจัดการอารมณ์ และความเครียดได้ด้วยตนเอง เราแนะนำให้คุณปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีและเหมาะสมกับคุณที่สุดค่ะ




コメント


About Us

We are Journalism Art Club, or JAC.  

This club is operated and managed independently from any organisation. 

 

Please contact us for more information.

2728mary@gmail.com

bottom of page